ใครที่เรียนด้านสายการเงินมา การสอบ CFA จะเป็นใบเบิกทางเข้าสู่การทำงานในสายการเงินที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เมื่อสอบผ่านแสดงถึงคนนั้นมีความสามารถครบตามที่ต้องการนั้นเอง
CFA คืออะไร?
CFA มีชื่อเต็มๆว่า Chartered Financial Analyst เป็นคุณวุฒิทางด้านการเงินและการลงทุนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ผู้ที่ผ่านการทดสอบจะได้รับการยกย่องเป็น CFA Charterholder
เหมาะสำหรับใครบ้าง?
CFA เหมาะสำหรับคนที่อยากทำอาชีพทางด้านการเงิน เช่น นักวิเคราะห์ทางการเงิน แต่อาชีพที่จะได้รับประโยชน์โดนตรงจริงๆ คือ ผู้ที่ต้องการขึ้นทะเบียนเป็นผู้วิเคราะห์หลักทรัพย์ (Securities Analyst) และผู้ที่ต้องการขึ้นทะเบียนเป็นผู้จัดการกองทุน (Fund Manager) กล่าวคือสอบผ่าน CFA แล้วสามารถขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกับ กลต. ได้
ผู้สอบจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า หรือ
- เป็นนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายของหลักสูตรระดับปริญญาตรี หรือ
- มีประสบการณ์ทำงาน (ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการลงทุน) เป็นเวลา 4 ปี
การสอบ CFA?
การทดสอบมีทั้งหมด 3 Level ทั้งหมดเป็นข้อสอบภาษาอังกฤษ จัดการสอบโดย CFA Institute
คำอธิบาย | ช่วงเวลาสอบ | |
---|---|---|
Level 1 | ข้อสอบเป็นแบบปรนัยMultiple Choice เป็นการสอบความรู้เบื้องต้นที่เกี่ยวกับการประเมินมูลค่าการลงทุน และการบริหารกลุ่มหลักทรัพย์ แต่ละคำถามจะมีทั้งสิ้น 4 ตัวเลือก ใช้เวลารวมในการสอบทั้งสิ้น 6 ชั่วโมง หรือ 360 นาที แบ่งการสอบออกเป็นช่วงเช้า 120 ข้อภายในเวลา 3 ชั่วโมง และช่วงบ่ายอีก 120 ข้อภายในเวลา 3 ชั่วโมงเช่นกัน | เดือนมิถุนายน และธันวาคม |
Level 2 | ข้อสอบเป็นปรนัย 4 ตัวเลือกเช่นเดียวกัน เป็นการสอบเชิงลึกเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าการลงทุน แต่จะเน้นที่การนำเอาความรู้มาประยุกต์ใช้เพื่อตอบปัญหาจากกรณีศึกษา (Case Study) ทั้งนี้การสอบจะจัดขึ้นเพียงปีละครั้ง | เดือนมิถุนายน |
Level 3 | ข้อสอบเป็นแบบอัตนัย (Essay Questions) ครึ่งหนึ่ง เป็นการสอบเชิงลึกเกี่ยวกับการบริหารกลุ่มหลักทรัพย์ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก ซึ่งเน้นที่การนำเอาความรู้มาประยุกต์ใช้เพื่อตอบปัญหาจากกรณีศึกษา และเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในตลาดเงินตลาดทุนโลก โดยจัดสอบขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น | เดือนมิถุนายน |
CFA Institute มักจะเปิดให้สมัครสอบในแต่ละ Level ล่วงหน้าประมาณ 11 เดือนก่อนวันสอบ ส่วนค่าธรรมเนียมในการสอบจะมี 3 Rate ด้วยกัน การสมัครสอบในช่วงแรกๆ ที่เปิด จะได้ Rate ที่ประหยัดที่สุด
สมัครสอบที่นี่ cfainstitute.org
คุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิได้รับ CFA Charter
1) สอบผ่าน CFA ทั้ง 3 ระดับ (ต้องสอบให้ผ่านทีละระดับ)
2) มีประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนเป็นเวลา 4 ปี
3) เป็นสมาชิกของ CFA Institute
4) เป็นสมาชิกสมาคม CFA สำหรับประเทศไทย คือ CFA Society of Thailand
5) ยอมรับและถือปฏิบัติมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพ
สำหรับใครที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ สถาบัน TSI (Thailand Securities Institute) ก็ได้จัดสอบ CISA (Certified Investment and Securities Analyst Program) เป็นหลักสูตรเดียวกับ CFA เพียงแต่ใช้ภาษาไทยในการสอบ ซึ่งจะกล่าวในบทความถัดไป
ที่มา : fs-academy.com
ประกาศหมาย
ตอบลบ